RSS

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เพื่อนนั้น คืออะไรตับไตไส้พุง

คยได้ยินมั๊ยว่า...สหายที่ดี คือสหายที่รู้ตับไตไส้พุงเราหมดแต่มันก็ยังรักเราอยู่
มีคำถามน่าสนใจตรงที่ว่า คุณจะปล่อยให้ มีคนมารู้ใจ มีสหายที่รุ้ไส้ทุกขดของคุณเลยหรือ? และคนที่รู้ทุกเรื่องล่ะยังจะมีความปลอดภัย มีความสุขอยู่หรือไม่ มีบางเรื่องที่ไม่น่ารู้ มีบางเรื่องที่อาจจะรู้ไม่จริง

ที่ถามอย่างนี้ก็เพราะว่า มีคำกล่าวจากหนังสือวาทะจิ้งจอกเฒ่ากล่าวไว้ว่า "แค่ใส่ใจอย่าถึงขั้นรู้ใจเป็นพอ" เพราะการที่มีคนที่รุ้ใจเรามากๆ รู้กำพืดเดิมของเรามากๆแล้ว บุคคลนั้นอาจจะเป็นเสี้ยนหนามของเราได้ในอนาคต ไม่ว่าเราคิดอะไร กระดิกตัวทำอะไร ก็เดาทางออกหมด 

ยกตัวอย่างเช่น เรามีหน้าที่วางแผนบริหารงานให้กับบริษัทA แต่เพื่อนเราก็ทำงานให้กับบริษัทB มีอยู่วันหนึ่ง เกิดเราต้องกลายมาทำงานร่วมกัน เกิดมีการทะเลาะกัน แต่ละคนต่างก็อยากได้ผลประโยชน์ให้กับบริษัทของตนทั้งนั้น ทำให้เกิดการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ต่างคนต่างเรียนมาด้วยกัน รู้นิสัย รู้แนวคิด รู้ไส้รู้พุงกันมาหมด ก็ย่อมที่จะเดาได้ง่ายว่าอีกฝ่ายจะตัดสินใจยังไง เมื่อรุ้ใจฝ่ายตรงข้ามและตนเองก็อยากได้ผลงาน ต่างฝ่ายต่างก็ขุดเอาเรื่องเก่ามาพูด ขุดเอาความชั่วร้ายมาแสดง ขุดเอาด้านมืดภายในจิตใจมาเปิดเผย ถามหน่อยเถอะว่า ถึงตอนนั้นแล้ว คุณยังจะรักกันแนบสนิท อย่างที่เรียกกันว่า รักกันปานจะแหกดากกันดม ได้หรือไม่? ยังไงก็นำไปสู่สนามรบ ได้นองเลือด ได้เจ็บใจกันบ้างแหละ

บางครั้งคนเราก็ต้องมีเล่ห์เหลี่ยม ชั้นเชิงกันบ้าง บางครั้งสิ่งที่คุณรู้จากสหายรักอาจจะไม่ใช่ความจริงเลยก็ได้  ใครจะไปรู้  บางครั้งเพื่อนก็หักหลังเรา เราก็หักหลังเพื่อน  บางคนบอกว่าแค่หักหน้าเพื่อนเรื่องเล็กน้อยเองเดี๋ยวมันก็หายโกรธ  บางคนก็ว่า ไอ้เล็กน้อยนี่แหละคือเรื่องใหญ่สำหรับ...มึงทำกับกูได้ไง......นานาคำถาม หลากหลายข้อโต้แย้ง ชวนให้สับสนในสถานะมิตรสหายกันเหลือเกิน  
หลายครั้งที่ทุกคนเกิดคำถามว่า มึงจำตอนนั้นได้มั๊ย ตอนที่เราเคยเที่ยวด้วยกัน เคยมีความสุขด้วยกัน ที่ถามอย่างนั้น ก็ถือเป็นสัญญาณได้แล้วว่า นี่กูกับมึงยังเป็นเพื่อนกันอยู่มั๊ย แล้วถ้ามีคำตอบที่ว่า กูจะพยายามนึก ล่ะ คุณจะรู้สึกยังไง  
ฉะนั้นแล้ว ฉันจึงคิดได้ว่า 
1.เป็นเพื่อนกัน อย่าถามย้ำว่ายังเป็นเพื่อนกันหรือไม่ เพราะคำตอบที่ได้อาจจะไม่ใช่อย่างที่คิด แล้วมันจะเจ็บจี๊ดไปทั้งใจ
2.เป็นเพื่อนกัน อย่าให้เพื่อนรุ้ใจมากจนเกินไป เอาแค่มีงอน มีง้อ มีพูดคุยแลกเปลี่ยนกันเพื่อให้เพื่อนใส่ใจเราบ้างเป็นพอ
3.เป็นเพื่อนกัน อย่ากล่าวคำว่า กูไว้ใจมึง มึงไว้ใจกู เพราะในโลกความจริงแล้ว เรายังไม่ค่อยจะไว้ใจตัวเองเลย

สรุป   ถ้าหากคิดจะคบกันเป็นเพื่อนแล้ว ไม่จำเป็นหรอกที่เราจะต้องรู้เรื่อง รู้ใจ รุ้ทุกอย่างเกี่ยวกับเพื่อนเรา ขอแค่เพียงใส่ใจ เอาใจเพื่อนมาใส่ใจเรา พยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เพื่อนเราเป็น  แค่นี้ เราก็จะรักษาสถานะเพื่อนไว้ได้  แต่ถ้าหากเรารู้ใจ รุ้กำพืดของเพื่อนรักเราโดยบังเอิญแล้วล่ะก็...แสร้งโง่ซะ...เพราะ เพื่อนเราคงไม่อยากให้เรารู้เรื่อง รู้ใจ รู้ปัญหาทุกเรื่องของมันหรอก  เรามีหน้าที่แค่ดูห่างๆอย่างห่วงๆช่วยได้ตามคำขอ ช่วยได้เท่าที่ ช่วย

คนเราก็ต้องมีที่ว่าง มีโลกส่วนตัวเหมือนกัน....และเราก็คงจะไม่ยอมให้คนอื่นมาแฝงตน แย่งพื้นที่ และทำลายโลกส่วนตัวของเรา  ใช่มั๊ยล่ะ?

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น