วาทะจิ้งจอกเฒ่า หนังสือที่สอนให้เราไม่ต้องทำการสู้รบกับใคร แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้
เลือกอ่านหนังสือเล่มนี้ก็เพราะว่า ชอบในเนื้อหาที่เขียนไว้ที่ปกหลังว่า...
"อนาคต อุดมการณ์ ศักดิ์ศรี และความยุติธรรม ล้วนจะหมดความหมายในพริบตา หากเราไม่อาจอยู่รอดปลอดภัย จงอย่าลืมว่า "ม้าดีที่ตายแล้ว" มิใช่ ม้าดี หากคือ"ม้าตาย" และ หากเราคิดว่า เราคือคนธรรมดา มิใช่ผู้ยิ่งใหญ่ แต่ต้องการอยู่รอดและมีอาณาจักรของตัวเอง หนังสือเล่มนี้...เราไม่ควรพลาด
แหมะ ...แค่นี้ก็น่าสนใจแล้วใช่มั๊ยคะ
คราวนี้เราก็มาพลิกดูว่าข้างในมีเนื้อหาอะไรบ้าง
ข้างในหนังสือเล่มนี้จะบอกถึงวิธีการเอาตัวรอดในป่าดงดิบมนุษย์
โดยมีทั้งหมด...57 ตอน แต่ละตอนขอบอกว่าอ่านเสร็จแล้วคุณจะร้องว่า...เอ่อว่ะ ใช่เลย โดนใจ คิดได้ไงเนี่ย
เช่น
1.ผู้อ่อนแอก็มีอาณาจักรของตนเอง--> ตอนนี้จะสอนให้เราเข้าใจในธรรมชาติที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ว่า สัตว์ที่อ่อนแอ ตกเป็นเหยื่อสัตว์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าป่า ทำไมถึงสามารถดำรงเผ่าพันธุ์ รักษาจำนวนประชากรได้มากกว่า สัตว์ที่เป็นนักล่า...ก็เพราะว่าในธรรมชาติแล้ว ไม่มีสัตว์ที่อ่อนแอที่สุด และ แข็งแรงที่สุด
สัตว์ทุกชนิด ทุกประเภทต่างก็มีอาณาจักรเป็นของตัวเอง
เปรียบได้กับคน คนเราำไม่มีใครที่เก่งและดีไปซะทุกอย่าง แล้วก็ไม่มีใครที่แย่ทุกเรื่อง รึว่าเลวร้ายไปซะทุกอย่าง คนเราก็มีด้านดี ด้านไม่ดีกันทุกคน ขึ้นอยู่ที่ว่าตอนนั้นคุณได้ยืนต่อสู้ที่สนามอะไร ต่อสู้อย่างไร
ดังนั้น พึงตระหนักได้ว่า ไม่มีครจะขนะไปทุกอย่าง ทุกสนาม ทุกเวที หรือทุกสถานการณ์ได้ ทุกคนต่างมีความสามารถ ความถนัด มีสนาม มีอาณาจักรที่สามารถยืนหยัดในฐานะผู้เข้มแข็งได้ทุกคน
2.คำหวาน:ยาพิษที่ร้ายแรงที่สุดในโลก--> ใครๆก็ชอบฟังคำยกยอปอปั้นจากคนอื่นกันทั้งนั้น เพราะคนส่วนใหญ่มีอัตตา ใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง และหวังว่าจะให้ผู้อื่นมายอมรับ ไม่ว่าจะเป็น คนที่มีความมั่นใจสูงก็ต้องการคำหวานเพื่อจะได้รับการยอมรับมากขึ้น คมที่ต่ำต้อยก็ต้องการคำหวานเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจ
แต่การที่เราจะนำเทคนิคยกยอปอปั้น ไปใช้ให้ได้ผลนั้นก็ต้องระวัง เพราะหากถูกจับได้แล้ว เราก็จะสูญเสียความไว้วางใจ ไปจากคนๆนั้นทันที แต่หนังสือเล่มนี้ก็มีเทคนิคป้องกันตนเองจากยาพิษไว้ว่า เมื่อเรารู้สึกปลาบปลื้ม เคลิบเคลิ้มไปกับคำหวาน ก็จงพึงระวังไว้แล้วว่า นั่นคือสัญยาเตือนภัย จากคำป้อยอ โกหก
หลอกลวง
นอกจากนี้ยังมีบทความที่น่าสนใจอีกมากมายเช่น
- อย่าเคียดแค้นคนพาล อย่าประจบประแจงคนดี
- ชิงชังความชั่วร้าย ก็ต้องหมางใจกับคนอื่น
- แสร้งตายแกล้งแพ้ เพื่อความอยู่รอด
etc.
สุดท้ายแล้ว หนังสือเล่มนี้ สอนให้เข้าใจและมีเทคนิคในการเอาตัวรอดเพื่อที่จะได้กลับมายืนหยัดหรือสู้ใหม่ในสังเวียนหน้า ไม่ใช่หนังสือที่สอนให้คนเป็นคนไม่ดี เพราะคนเรานั้นเกิดมาเป็นผ้าขาว โตมาสังคมก็แต่งแต้มสีสันให้เป็นผ้าสีซะแล้ว กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็กลายเป็นสัตว์สังคมที่อาศัยอยู่ในป่าดงดิบมนุษย์ถ้าไม่รู้จักเอาตัวรอดแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไงล่ะ จรืงมั๊ย...
1 ความคิดเห็น:
น่าอ่านว่ะ แต่ไม่มีตังค์ซื้อ
หาเล่มอื่นมาดูหน่อยดิ๊
แสดงความคิดเห็น